29
พ.ค.
68
วิสาหกิจทุเรียนคุณภาพชายแดนใต้ยังมีหวัง คาดปีนี้ผลผลิตอยู่ที่ 30% เพราะเหตุฝนตกชุก ส่งผลให้ทุเรียนติดดอกไม่ได้ตามเป้า เน้นย้ำสมาชิกผลิตทุเรียนให้มีคุณภาพ พร้อมวางแผนขายให้กับเครือข่ายในประเทศ
จากสถานการณ์ฝนตกชุกในภาคใต้ของประเทศตั้งแต่ต้นปี ส่งผลกระทบถึงชาวสวนทุเรียน เนื่องจากฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องทุกวัน ทำให้ดอกทุเรียนที่กำลังออก ร่วงโรย กิ่งเกิดการอุ้มน้ำ ทำให้ขั้วดอกหลุดง่ายยิ่งขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรมีความกังวลเป็นอย่างมากนั้น
นายมูฮำมัด หะระตี รองประธานวิสาหกิจทุเรียนคุณภาพช้างเผือกกาลอ ต.กาลอ อ.รามัญ จ.ยะลา กล่าวถึงสถานการณ์ทุเรียนปีนี้ว่า “ปีนี้สวนทุเรียนได้รับผลกระทบกันหมด แต่เชื่อว่าเกษตรกรที่อยู่ในเครือข่ายวิสาหกิจทุเรียนคุณภาพของเรายังพอมีความหวัง เพราะเราเข้มข้นเน้นในกระบวนการทำทุเรียนให้มีคุณภาพไม่มีหนอน สมาชิกในกลุ่มมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กันตลอด ทุเรียนเราเลยค่อนข้างแข็งแรง ยังมีโอกาสที่จะทำผลผลิตให้เรา ถึงไม่มากเท่าปีอื่นๆ แต่มีแน่นอน”
นายมูฮำหมัดสุกรีย์ เจ๊ะแม เกษตรกร หมู่ที่ 2 บ้านกาลอ ต.กาลอ อ.รามัน จ.ยะลา หนึ่งในสมาชิกวิสาหกิจทุเรียนคุณภาพช้างเผือกกาลอกล่าวเพิ่มเติมว่า
“พูดในฐานะที่เป็นเกษตรกรต้องบอกว่าปีนี้น่าเป็นห่วงมาก เพราะฝนตกแทบทุกวัน ตั้งแต่ช่วงต้นปี ก็พยายามประคองสถานการณ์ไป อย่างน้อยๆต้องมีผลผลิตให้ได้ขายบ้าง และโชคดีที่ทางเครือข่ายฯมีร้านขายปัยจัย อย่างปุ๋ย และสารชีวภัณฑ์ต่างๆ ที่สมาชิกสามารถยืมปัจจัยต่างๆเหล่านี้ไปได้ก่อน และสามารถคืนทางร้านเมื่อขายผลผลิตได้ ทำให้สมาชิกลดความกังวลเรื่องต้นทุนการผลิตไปได้มาก นี่คือข้อดีของการเข้าร่วมเครือข่ายฯที่ทางสถาบันปิดทองหลังพระตั้งขึ้นมา”
ด้านนายอาซันบาซอรี อีแมลอดิง รองประธานเครือข่ายวิสาหกิจทุเรียนคุณภาพชายแดนใต้ กล่าวถึงปัญหาและแนวทางแก้ไขว่า
“คาดการณ์ปีนี้สวนทุเรียนในเครือข่าย จะได้ผลผลิตประมาณ 20%-30% แม้ว่าจะน้อย แต่ดีกว่าไม่ได้เลย ซึ่งในวิกฤติก็ยังมีโอกาส เพราะหากผลผลิตออกน้อยก็เป็นไปได้ว่าราคาทุเรียนก็น่าจะดี ซึ่งเครือข่ายฯเราทำทุเรียนคุณภาพอยู่แล้ว ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดแน่นอน และเราได้มีการวางแผนการตลาดโดยการประสานเครือข่ายสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ ทั้ง 22 จังหวัดทั่วประเทศ ในการส่งทุเรียนของเราไปขาย เพื่อเป็นการขยายตลาดและสร้างอนาคตให้กับทุเรียนชายแดนใต้ ช่วยฝ่าวิกฤติครั้งนี้ให้ผ่านไปได้แน่นอน”