ปิดทองหลังพระ เร่งจัดทำแผนปี 2569 โดยได้ขยายความร่วมมือทั้งภาคราชการและเอกชนโดยน้อมนำแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระปณิธาน “สืบสาน รักษา ต่อยอด” ของในหลวงรัชกาลที่ 10 เป็นหลักชัยในการทำงานด้านพัฒนาแหล่งน้ำ เพิ่มผลผลิตการเกษตร รักษาสิ่งแวดล้อม ฯ

 

วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ได้จัดการประชุมคณะกรรมการสถาบัน ครั้งที่ 2/2568  ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร โดยมีนายกฤษฎา บุญราช ประธานกรรมการสถาบัน รศ.ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ รองประธานกรรมการสถาบัน และคณะกรรมการ เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียง

ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2569 ของสถาบัน โดยสถาบันปิดทองหลังพระทำหน้าที่เป็นองค์กรกลางในการสำรวจ ประสานการสำรวจและซ่อมแซมแหล่งน้ำต่างๆ ของส่วนราชการที่ค้างการถ่ายโอนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปเป็นหน่วยดำเนินงานตาม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542  เช่น แหล่งน้ำขนาดเล็กของกรมทรัพยากรน้ำ แหล่งน้ำขนาดเล็กของกรมพัฒนาที่ดิน เป็นต้น 

ทั้งนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบกรอบแนวทางและระยะเวลาการจัดทำแผนปฏิบัติด้านบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ระยะที่ 5 (พ.ศ. 2571–2575) เพื่อใช้เป็นหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนางานในความรับผิดชอบของสถาบันให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศ และปัญหาความต้องการของราษฎร   

ในโอกาสเดียวกันสถาบันได้รายงานผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568   มีผลงานสำคัญ อาทิ การสำรวจแหล่งน้ำของส่วนราชการที่ยังไม่ถ่ายโอนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวม 1,618 โครงการ พบว่ามีโครงการที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพร้อมรับการถ่ายโอน 969 โครงการ (ร้อยละ 61)  การซ่อมแซมและเสริมศักยภาพแหล่งน้ำชุมชน ในพื้นที่ 9 จังหวัดลุ่มน้ำมูล 127 โครงการ พื้นที่ได้รับประโยชน์รวม 24,811 ไร่ สามารถกักเก็บน้ำได้ 1.54 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อสนับสนุนการเกษตรและการอุปโภคบริโภคของประชาชน  การพัฒนาอาชีพการเกษตรภายหลังการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร เช่น โครงการทุเรียนคุณภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่สร้างรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกร 37 ล้านบาท การพัฒนาการผลิตอ้อยคั้นน้ำ การส่งเสริมการปลูกกาแฟโรบัสต้า การส่งเสริมการปลูกเมล่อน ที่สร้างรายได้ให้กลุ่มเกษตรกร รวมกว่าห้าล้านบาท      โครงการออกหน่วยแพทย์ผ่าตัดตาต้อกระจกและต้อเนื้อให้กับราษฎรที่มีข้อจำกัดเข้าสู่การรักษา จำนวน 410 ราย และมอบแว่นสายตาให้ผู้มีปัญหาทางสายตา กว่า 300 ราย  รวมทั้งการเตรียมการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากภาษีการค้าระหว่างประเทศ  และโครงการอื่น ๆ อีกมากมาย  

โดยการทำงานของสถาบันนอกจากให้ความสำคัญในการประสานงาน บูรณาการ ด้านแผนงาน โครงการ  งบประมาณ  พื้นที่ และบุคลากร กับส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  สถาบันการศึกษา  ภาคเอกชน  และประชาชน  แล้ว  ใน 22 จังหวัดพื้นที่ปฏิบัติงานของสถาบันจะมีการบริหารงานโดยคณะอนุกรรมการประสานงานโครงการพัฒนาของสถาบันประจำจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน อีกด้วย

ข่าวอื่นๆ

น่าน

น่าน

อุดรธานี

อุดรธานี

กาฬสินธุ์

กาฬสินธุ์

เพชรบุรี

เพชรบุรี

อุทัยธานี

อุทัยธานี

ขอนแก่น

ขอนแก่น

3 จังหวัด
ชายแดนใต้

3 จังหวัดชายแดนใต้

3 จังหวัด
ชายแดนเหนือ

3 จังหวัดชายแดนเหนือ