“ปิดทองหลังพระ” ผ่าต้อกระจก 104 ชาวกาฬสินธุ์ ถวายพระราชกุศล สมเด็จย่า ครบรอบ 125ปี ชาวบ้านดีใจได้รับโอกาสชีวิต

     

เมื่อวันที่  16 พฤศจิกายน ที่อาคารอเนกประสงค์ โรงพยาบาลร่องคำ อำเภอร่องคำ จังหวัดกาฬสินธุ์ นายกฤษฎา บุญราช  ประธานกรรมการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริได้เป็นประธานพิธีเปิดตาและมอบแว่นกันแดดผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดตาต้อกระจก โครงการรณรงค์รักษาผู้ป่วยโรคต้อกระจก น้อมเกล้าฯ ถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ครบรอบ 125 ปี โดยมีนายธนภัทร ณ ระนอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายอำเภอร่องคำ ประธานมูลนิธิโรงพยาบาล หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารภาคเอกชน คณะจักษุแพทย์ แพทย์ พยาบาล ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนจิตอาสา เข้าร่วม

 

นายกฤษฎากล่าวว่า สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระฯมีพันธกิจในการน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ขยายผลไปสู่ชุมชน นำองค์ความรู้ไปส่งเสริมการพัฒนาตามแนวพระราชดำริอย่างเป็นระบบกว้างขวาง จนกระทั่งเป็นแนวทางหลักในการพัฒนาประเทศ ตลอดจนการสนองพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว “การสืบสาน รักษา ต่อยอด” โดยภารกิจหลักของสถาบันประกอบด้วย 4 ประการ ได้แก่ 1.การบริหารจัดการด้านน้ำ 2.การบริหารจัดการด้านอาชีพ 3.การบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม 4.การบริหารจัดการด้านสุขภาพพลานามัย ทั้ง 4 ภารกิจนี้ดำเนินการในพื้นที่การทำงาน 22 จังหวัดของสถาบัน

 

นายกฤษฎากล่าวว่า โดยกิจกรรมวันนี้เป็นภารกิจด้านสุขภาพพลานามัย โดยเป็นการน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งพระราชทาน เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2534 ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา ความว่า “การพัฒนาในแต่ละด้านไม่อาจแยกออกจากกันได้ ถ้าคนเราจะมีชีวิตอยู่ได้ด้วยดี ก็ต้องมีน้ำใช้มีอาชีพ มีที่อยู่อาศัยที่พออยู่ได้ และมีสุขภาพพลานามัยที่ดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องพัฒนาไปพร้อมๆ กัน มิฉะนั้นก็จะไม่บรรลุผลสำเร็จอย่างแท้จริง” จาก พระราชดำรัสดังกล่าว ทำให้สถาบันได้ตระหนักว่า การพัฒนาชนบทจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งด้านแหล่งน้ำ การส่งเสริมอาชีพ การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และการส่งเสริมสุขภาพพลานามัยที่ดีให้กับราษฎร โดยการมีสุขภาพพลานามัยที่ดีเป็นรากฐานสำคัญของการดำรงชีวิต การประกอบอาชีพ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของครอบครัวและสังคมโดยรวม ดังนั้น การบริหารจัดการด้านสุขภาพพลานามัยให้กับราษฎรจึงเป็นภารกิจสำคัญประการหนึ่งที่สถาบันมุ่งมั่นในการดำเนินงาน เพื่อสนองแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร ในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระปณิธาน “การสืบสาน รักษา ต่อยอด” ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทั้งสองพระองค์ทรงอุทิศพระวรกายในการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีอย่างมั่นคงและยั่งยืน

 

 นายกฤษฎากล่าวว่า สถาบันพร้อมด้วยมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ หน่วยงานทางการแพทย์ คณะแพทย์ พยาบาล และราษฎรจิตอาสา ได้นำหน่วยแพทย์ด้านทันตกรรมเข้าดูแลราษฎรที่มีปัญหาสุขภาพช่องปาก นำคณะจักษุแพทย์เพื่อตรวจรักษาตาต้อกระจก ตรวจวัดสายตา และประกอบแว่นตาให้กับผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย รวมถึงประสานงานด้านการเดินทาง การพักรักษาตัว และอาหารผู้ป่วยและญาติด้วยในส่วนของการรักษาตาต้อกระจก สถาบันและภาคีเครือข่ายได้ออกหน่วยมาแล้ว 15 ครั้ง ให้การรักษาราษฎรทั่วประเทศมากกว่า 1,700 ราย


“การที่มูลนิธิและสถาบันฯทำโครงการณรงค์ผ่าตัดต่อกระจก เพราะโรงพยาบาลหลายแห่งอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ขาดจักษุแพทย์ ทำให้ผู้ป่วยแต่ละพื้นที่ต้องรอคิวรักษานาน และการผ่าตัดต้องใช้อุปกรณ์ผ่าตัดเฉพาะ ใช้เลเซอร์ และห้องปลอดเชื้อ  เมื่อได้รับความร่วมมือจากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม  และคณะบุคลากรทางการแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญจากหลายสถาบัน มีอุปกรณ์การรักษาที่มีคุณภาพสูงและเป็นการนำบริการรักษาถึงถิ่นที่อยู่โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย โดยมูลนิธิและสถาบันให้การสนับสนุนงบประมาณบางส่วน”นายกฤษฎากล่าว และว่าสำหรับโครงการรณรงค์รักษาตาต้อกระจก ณ โรงพยาบาลร่องคำ ครั้งนี้ เป็นการดำเนินงานครั้งที่ 16 น้อมเกล้าฯ ถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ครบรอบ 125 ปี เพื่อให้พวกเราทุกคนได้รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อประชาชนไทยทุกคน

 

นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ กล่าวว่าหลักการทำงานสำคัญประการหนึ่งที่ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ ประธานกรรมการ มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ และนายกฤษฎา บุญราช ประธานกรรมการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานของสถาบันคือ การให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาคีในการสร้างความเข้มแข็งด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญาให้กับราษฎร ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและอาชีพ โดยใช้แนวทางการพัฒนาเชิงพื้นที่ตามแนวพระราชดำริมูลนิธิและสถาบันได้ร่วมกับราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย หน่วยงานอาสามูลนิธิจักษุเชียงใหม่ มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) และภาคีเครือข่ายจัดโครงการรณรงค์ผ่าตัดตาต้อกระจกน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสสำคัญของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ ในพื้นที่จังหวัดยะลานราธิวาส เชียงใหม่ น่าน พิจิตร พิษณุโลก และกาฬสินธุ์ ตั้งแต่ปี 2560 รวมทั้งสิ้น 15ครั้ง ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 16ของโครงการรณรงค์รักษาผู้ป่วยโรคต้อกระจก น้อมเกล้าฯ ถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ครบรอบ 125 ปี ให้กับราษฎรที่มีปัญหาด้านสายตาในพื้นที่อำเภอร่องคำและอำเภอใกล้เคียง จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีกระบวนการค้นหาและคัดกรองผู้มีปัญหาทางด้านสายตาตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา พบผู้ป่วยต้อกระจก จำนวน 104 ราย และได้ดำเนินการผ่าตัดในวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่โรงพยาบาลร่องคำ รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากจังหวัดกาฬสินธุ์ สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ อำเภอร่องคำ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. และราษฎรจิตอาสา ในการอำนวยความสะดวกด้านการเดินทาง การปฏิบัติงานของคณะแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ ตลอดจนการดูแลการเดินทางที่พัก และอาหารของผู้ป่วยและญาติ

 

นายบุญสุข โพนศรีสม อายุ 83 ปี ที่รับผ่าตัดต่อกระจก กล่าวว่า ดีใจมากที่ชีวิตได้รับโอกาสนี้ ตาเป็นต้อมาหลายปีใช้ชีวิตลำบาก พอป่วยแล้วมองอะไรพร่ามัว ไม่สามารถทำงานหนักได้ ตอนนี้มองชัดขึ้นรู้สึกขอบคุณมาก ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ

 

นายพงษ์ศักดิ์ นาสมบัติ อายุ 64 ปี เปิดเผยว่า ตามองไม่ชัดเพราะเป็นต้อกระจากมา 5 ปี เคยทำไร่ทำนา ก็ใช้ชีวิตไม่ค่อยสะดวก เพราะเวลาอากาศร้อนรู้สึกลำบากมาก เพราะตามัวมองไม่เห็นต้องใช้ยาหยอดตาเป็นประจำ ถ้าไม่ได้รับคัดเลือกให้เข้าผ่าตัด ไม่รู้ว่าต้องรออีกนานแค่ไหน

 “ดีใจมากที่ได้รับโอกาสผ่าตัดตา ชีวิตเหมือนได้แสงสว่างขึ้นมาอีกครั้ง ถือเป็นโอกาสของผมจริง ๆ ขอปราวณาตนเป็นคนดี และขอให้ทุกๆพระองค์ทรงพระเจริญ “นายพงษ์ศักดิ์กล่าว

ขอขอบคุณข้อมุลจาก : มติชน

#มูลนิธิปิดทองหลังพระ

ข่าวอื่นๆ

น่าน

น่าน

อุดรธานี

อุดรธานี

กาฬสินธุ์

กาฬสินธุ์

เพชรบุรี

เพชรบุรี

อุทัยธานี

อุทัยธานี

ขอนแก่น

ขอนแก่น

3 จังหวัด
ชายแดนใต้

3 จังหวัดชายแดนใต้

3 จังหวัด
ชายแดนเหนือ

3 จังหวัดชายแดนเหนือ